ความแตกต่างของการเทรดในทางเทคนิคและทางพื้นฐาน
ในโพสนี้จะ อธิบายถึงความแตกต่างของการเทรดในทางเทคนิคและทางพื้นฐาน พร้อมวิเคราะห์ถึง pain point และความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ร่วมกัน เพื่อกา...
ในโพสนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างของการเทรดในทางเทคนิคและทางพื้นฐาน พร้อมวิเคราะห์ถึง pain point และความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ร่วมกัน เพื่อการพัฒนาการเทรดให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
การเทรดในทางเทคนิค (Technical Trading) และทางพื้นฐาน (Fundamental Trading) มีแนวโน้มที่แตกต่างกันในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการเข้า-ออกการซื้อขายหลักๆ ดังนี้:
1. การเทรดในทางเทคนิค (Technical Trading):
- การวิเคราะห์กราฟเทคนิค:
ผู้เทรดในทางเทคนิคจะใช้ข้อมูลราคาที่แสดงบนกราฟ (เช่น ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด) เพื่อพยายามหาโมเมนตัม รูปแบบ หรือเทรนด์ที่อาจเกิดขึ้น และใช้เครื่องมือทางเทคนิคเช่น ไลน์ทางระดับรับ-ส่ง อินดิเคเตอร์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจเข้า-ออกการซื้อขาย
- การเทรดตามสัญญาณเทคนิค:
การเทรดในทางเทคนิคมักจะใช้สัญญาณทางเทคนิคเช่น การกาเข้า-หรือออกตามการตัดข้ามของเส้นทางหรือการสร้างรูปแบบบนกราฟ เพื่อกำหนดจุดเข้า-ออกการซื้อขาย
2. การเทรดในทางพื้นฐาน (Fundamental Trading):
- การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน:
ผู้เทรดในทางพื้นฐานจะศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ บริษัท หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นพื้นฐานเกี่ยวกับมูลค่าของสินทรัพย์หรือบริษัท และทำการตัดสินใจในการซื้อ-ขายตามข้อมูลนั้น
- การวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลระยะยาว:
การเทรดในทางพื้นฐานมักจะใช้ข้อมูลที่มีระยะเวลายาวนาน เช่น รายงานการเงิน การผลิต และแนวโน้มของเศรษฐกิจ ในการตัดสินใจในการเข้า-ออกการซื้อขาย
Pain Points และความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ร่วมกัน:
1. Pain Points:
- การขาดความเข้าใจในการวิเคราะห์:
ผู้ที่เทรดในทางเทคนิคอาจพบว่าการวิเคราะห์กราฟเทคนิคซับซ้อนและต้องการความเข้าใจในการใช้เครื่องมือทางเทคนิค เป็นเรื่องที่ยากลำบาก
- ความผิดพลาดในการวิเคราะห์:
การเทรดในทางพื้นฐานอาจพบว่าการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจหรือบริษัทอาจมีความผิดพลาดหรือไม่แม่นยำเสมอไป
- การตอบสนองต่อข่าวสาร:
การเทรดในทางเทคนิคอาจพบว่าการตอบสนองต่อข่าวสารทางเศรษฐกิจหรือบริษัทสามารถทำให้เกิดการแกว่งขึ้นของราคาซึ่งอาจทำให้การวิเคราะห์กราฟเทคนิคไม่แม่นยำ
2. ความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ร่วมกัน:
- การผสมผสานวิธีการ:
ผู้เทรดสามารถผสมผสานการใช้วิธีการทั้งในทางเทคนิคและทางพื้นฐานเข้าด้วยกัน เพื่อลด
ความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- การใช้เทคนิคเพื่อยืดความระยะเวลา:
การใช้เทคนิคเพื่อหาสัญญาณเข้า-ออกการซื้อขายสามารถใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจในระยะสั้น ในขณะที่การวิเคราะห์พื้นฐานอาจช่วยให้มีมุมมองระยะยาวที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ
- การใช้ข้อมูลเพิ่มเติม:
ผู้เทรดสามารถใช้ข้อมูลจากทั้งการวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐานเพื่อตัดสินใจการเข้า-ออกการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การนำเทคนิคและพื้นฐานมาใช้ร่วมกันอาจช่วยในการเติบโตและพัฒนาการเทรดให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรโดยมีมุมมองทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการตัดสินใจในการซื้อ-ขาย.