การรวบรวมกลยุทธ์ COMPILING THE STRATEGY Smart Money Concept

การรวบรวมกลยุทธ์ COMPILING THE STRATEGY SMART MONEY CONCEPT

หลังจากที่เราได้แนะนำโครงสร้างตลาด (Market Structure), แนวโน้ม (Trend), อุปสงค์และอุปทาน (Supply And Demand) ,และการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา (Multiple Timeframe Analysis) มามากแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะรวบรวมความเข้าใจทั้งหมดมาสร้างเป็นกลยุทธ์ที่ใช้เทรดกันครับ 

ตลาดฟอเร็กซ์ Forex Market ไม่ได้สุ่ม มันถูกขับเคลื่อนโดย Smart Money ซึ่งมีเรียกว่าผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาด Market Makers ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่และชาญฉลาดที่สุดในตลาด Forex กลยุทธ์ Smart Money เหล่านี้มีความน่าเชื่อถือและประสบความสำเร็จมากกว่ากลยุทธ์ใดๆ ที่เทรดเดอร์รายย่อยใช้กัน 

การซื้อขายกับโซนอุปสงค์ Demand และอุปทาน Supply เรากําลังซื้อในราคาต่ําในโซนอุปสงค์ Demand และขายในราคาสูงในโซนอุปทาน Supply กลยุทธ์ของเราขึ้นอยู่กับการซื้อขายที่โซนเหล่านี้ ใช้การเด้งจาก Supply & Demand Zone และใช้ Pattern ยืนยันสำหรับการเปิดออเดอร์การเทรดที่เยี่ยมยอดในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า Lower Timeframe 

ในขึ้นตอนแรกของกลยุทธ์เราคือพื้นที่แนวโน้มของกรอบเวลาที่สูงกว่า Higher Timeframe ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยการพิจารณา คำสั่งซื้อที่ไหลมา (Order Flow) ตามกรอบ Timeframe Montly , Weekly, Daily Timeframe เป็นการ Zoom In  ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงของแนวโน้ม อคติ (Bias) ควรขึ้นอยู่กับทิศทางของกรอบเวลาที่สูงกว่า 

Supply และ Demand Zones เราควรกำหนดโครงสร้างหลักในกรอบเวลาที่สูงกว่าเสมอ Higher-Timeframe ณ จุดนี้จะช่วยให้เราทำการพยากรณ์และคาดการถึงการเคลื่อนไหวของราคาจากจุดที่ตลาดจะดำเนินต่อไปหรือเป็นแนวโน้มการกลับตัวของราคา 

หลังจากนั้นเราสามารถมองหาการตีกลับของอุปสงค์และอุปทาน (Supply & Demand Bound) หรือรูปแบบ(Pattern)หรือความต่อเนื่องของแนวโน้ม(Trend Continution) และรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal Pattern) เพื่อซื้อขายในโซนเหล่านี้ 

ด้วยความช่วยเหลือของรูปแบบเหล่านี้เราสามารถไปยังแผนภูมิกรอบเวลาที่ต่ําลงและใช้แผนภูมิกรอบเวลาที่ต่ํากว่า 1: 4 หรือ 1: 6 เราสามารถค้นหารายการที่สมบูรณ์แบบสําหรับการเทรดของเรา

ความต่อเนื่องของแนวโน้มและการกลับตัวของแนวโน้มเป็นรูปแบบทั่วไปบางส่วนที่ใช้ในการซื้อขายของ Smart Money โดยใช้อุปสงค์และอุปทาน (Demand&Supply Zone)  ราคาจะลดลงเมื่อถึงโซนอุปทาน (Supply) และเพิ่มขึ้นเมื่อถึงโซนอุปสงค์ (Demand)

รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดสองรูปแบบนี้ในการซื้อขายโซนอุปสงค์และอุปทานอธิบายไว้ด้านล่าง

ความต่อเนื่องของแนวโน้ม Trend Continuation Pattern

รูปแบบความต่อเนื่องของแนวโน้ม (Trend Continuation Pattern) ในโซนอุปสงค์และอุปทานเกิดขึ้นภายในแนวโน้ม เมื่อตลาดเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ราคาจะรวมตัวกันเป็นระยะเวลาหนึ่งบนฐาน (Base) จากนั้นจึงเริ่มสูงขึ้นอีกครั้งซึ่งจะสร้างพื้นที่ของ Demand ควรป้อนตําแหน่งซื้อเมื่อราคามาถึงพื้นที่ Mitigate หรือ กลับมาพื้นที่นี้อีกครั้ง 

และในแนวโน้มขาลง เราสามารถซื้อขายรูปแบบนี้เมื่อราคาลดลงและรวมบีบอัด (Consolidates) และสร้างฐาน (Base) และแยกย่อยต่อไป (Breaks down) และสร้างโซนอุปทาน (Supply Zone) ควรป้อนตําแหน่งขายเมื่อราคามาถึงพื้นที่นี้ (Mitigate)

และในแนวโน้มขาลงเมื่อตลาดได้สร้าง Lower Low และ Lower High เราสามรถคาดหมายว่าตลาดจะไปต่อตามแนวโน้มจาก Supply Zone ก่อนหน้า  Rally-Base-Rally เป็นรูปแบบต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นในขณะที่ Drop-Base-Rally เป็นรูปแบบต่อเนื่องของแนวโน้มขาลง 

ในภาพ 36 นั้นเราสามารถเห็นได้ว่าตลาดยังคงมีแนวโน้มต่อไปหลังจากสร้างฐาน (Base) และบรรเทา (Mitigating) จากโซนอุปสงค์และอุปทาน ( Supply and Demand Zone )  นี่คือแนวโน้มของรูปแบบต่อเนื่องที่มีพลังมาก แต่ควรใช้การยืนยันในกรอบเวลาที่ต่ำกว่าเพื่อค้นหาจุดในการเทรดที่ดี โดยใช้รูปแบบนี้ 

รูปที่ 37 แนวโน้มตลาดขาลงในแผนภูมิชาร์ตแท่งเทียน

ในรูปที่ 37 เราจะเห็นตลาดเป็นรูปแบบต่อเนื่องในแนวโน้มขาลงในแผนภูมิแท่งเทียน ตลาดได้ล้มลงไปและสร้าง New Lows. ตลาดมีแรงขายอย่างรุนแรงเมื่อกลับไปที่ Supply Zone และไปตามแนวโน้มก่อนหน้า 

แนวโน้มการกลับตัว Reversal Of The Trend

ตลาดจําเป็นต้องเปลี่ยนแนวโน้มในกรอบเวลาที่ต่ําลง (Lower Timeframe) เพื่อให้แนวโน้มเปลี่ยนแปลงในกรอบเวลาที่สูงขึ้น(Higher Timeframe) ในแนวโน้มขาขึ้น

เมื่อตลาดทํา Higher High (HH) และ Higher Low (HL) ตลาดจะต้องทําลายโครงสร้างและสร้างจุดต่ําสุดใหม่ (Lower Low (LL)) เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างในกรอบเวลาที่สูงขึ้น 

เมื่อราคาลดลงจากนั้นรวมและเคลื่อนไหวในฐาน (Base) ในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะมีการสร้างโซนอุปสงค์ใหม่ และเราสามารถคาดการณ์ตําแหน่งซื้อของเราจากโซนอุปสงค์นี้ กลับทิศทางของตลาดทําให้เรามีรูปแบบการกลับตัวของอุปสงค์ (Demand Reversal Pattern)

ในทํานองเดียวกัน ในแนวโน้มขาลงเมื่อตลาดกําลังทํา Lower High และ Lower Low ตลาดจะทําลายโครงสร้างเพื่อเปลี่ยนทิศทาง รูปแบบการกลับตัวจากโซนอุปทานจะเกิดขึ้นเมื่อตลาดที่เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นรวมตัวภายในฐาน (Base) และเริ่มเคลื่อนตัวลง เทรดเดอร์ควรเปิดตําแหน่งขายเมื่อตลาดกลับมาที่โซนอุปทานนี้อีกครั้ง

รูปที่ 38 แสดงให้เราเห็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม ตลาดกําลังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ แต่ทันทีที่ตลาดทําลายโครงสร้างและสร้างฐานและรวมเข้าด้วยกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทันทีที่ตลาดกลับมาที่ Supply Zone ที่สร้างขึ้นใหม่นี้ อาจพิจารณาเปิด position ในการ Sell ซึ่งตลาดเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว