โครงสร้างการสะสมราคาของ Wyckoff Method Logic Basic Accumulation Structure

 โครงสร้างการสะสมราคของ Wyckoff Method Logic Accumulation Structure โครงสร้างการสะสมทางแนวนอนของราคาใน Wyckoff เบื้องต้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือแบ...

 โครงสร้างการสะสมราคของ Wyckoff Method Logic Accumulation Structure

โครงสร้างการสะสมทางแนวนอนของราคาใน Wyckoff เบื้องต้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือแบบที่มี spring กับแบบที่ไม่มี spring ในโพสต์นี้เราจะพามาดูตัวอย่างของการสะสมราคากันครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย 

Basic Accumulation Structure No.1 (Spring)



อธิบายรูปแบบโครงสร้าง Basic Accumulation Structure No.1

Creek : คือระดับแนวต้านสำหรับการสะสมราคา Accumulation หรือ Re-Accumulation Structure. มันจะสร้างขึ้นโดย AR (Automatic Rally) โดยที่ตำแหน่งสูงสุดของ AR ใน Phase และอาจมีการพัฒนาที่เป็นจุดที่สูงกว่าที่ Phase  B 

CHoCH : Change of Character ส่วนนี้คือเครื่องบ่งชี้สภาพแวดล้อมในตำแหน่งที่ราคาอาจจะเดินทางไปถึง CHoCH แรกที่เราจะได้พบจะเกิดขึ้นใน Phase A ที่ราคาเคลื่อนตัวลงมาจากแนวโน้มขาลงและมีสภาพแวดล้อมเข้าไปสู่การรวมตัวของราคา และ CHoCH ที่เราจะพบครั้งที่สองจากจุดต่ำสุดของ Phase C ที่ราคาจะเคลื่อนตจัวไปที่ตำแหน่ง SOS ราคาย้ายจากสภาพแวดล้อมการบีบอัดไปสู่การเกิดเป็นแนวโน้มของราคาในฝั่งขาขึ้น 

Phase A  : หยุดแนวโน้ม Bearish ก่อนหน้าที่เกิดขึ้น


- PS : Preliminary Support เป็นการหยุดการเคลื่อนที่ของราคาแนวโน้มขาลงไว้เพียงชั่วคราว และจะโครงสร้างจะพังราคาจะยังลงไปต่ออีกเสมอ
- SC : Selling Climax การเกิดขึ้นของ Selling Climax นั้นจะหยุดราคาที่มาจากขาลงไว้ไม่ให้ลงไปต่อ 
- AR : Automatic Rally การพุ่งขึ้นโดยอัตโนมัติ ปฏิกิริยาขาขึ้นการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้นที่สร้างจุดสูงสุดในช่วง (Trading Range)
-ST : Secondary Test คือการทดสอบระดับของ Supply และความแข็งแรงของ Selling Climax ที่เกิดขึ้น เป็นจุดสิ้นสุดของ Phase A และเป็นจุดเริ่มต้นของ Phase B  

Phase B : ช่วงระหว่างการสร้างเหตุของราคา 

UA : Upthrust Action. การ Break ระดับแนวต้าน Resistance level เพียงชั่วคราวและกลับเข้าสู่ช่วงราคาของการเทรด Trading Range ที่บริเวณส่วนนี้จะเป็นการทดสอบจุดสูงสุดที่สร้างขึ้นมาโดย Automatic Rally (AR)

ST as SOW : Secondary Test as Sign Of Weakness. สัญญาน SOW ที่เกิดขึ้นใน Phase B จะเป็นการทดสอบระดับของแนวรับ Support เป็นการทดสอบเพียงชั่วคราวและราคาจะกลับเข้าสู่ Trading Range ตามเดิมส่วนนี้เป็นการทดสอบจุดต่ำสุดที่สร้างขึ้นโดย Selling Climax (SC) 

Phase C : การทดสอบ

SP : Spring เป็นการ False Breakout Bearish คือหลอกว่าจะลงต่อแต่ไม่ลง นี่คือการทดสอบภายในรูปแบบที่มาจะทำ Breakout ใต้จุดต่ำของ Phase A และ B  และ Spring จะมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ

- Spring Test การเคลื่อนที่ของราคาในขาลงมาถึงจุดต่ำสุดของ Trading Range ในคำสั่งสำหรับการตรวจสอบความมุ่งมั่นของผู้ขาย 

- LPS : Last Point of Support . การสนับสนุนครั้งสุดท้ายในระดับของแนวต้าน Supply ที่ทดสอบในรูปแบบของราคาในขาลง Bearish และจะล้มเหลวเมื่อราคาไปถึงที่บริเวณจุดต่ำสุดของ  Trading Range 

-TSO : Terminal Shakeout or Shakeout . เป็นการ Breakout ปลอมที่เราจะสามารถสังเกตุเห็นได้ชัดเจน เป็นการเคลื่อนตัวของราคา Break จุดต่ำสุด ทะลุทะลวงดิ่งลึกผ่านระดับแนวรับ Support Level และจะกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นการสลัดรายย่อยทิ้งก่อนที่ราคาจะวิ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง 

Phase D : การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใน Trading Range 

SOS : Sign of Strength. การเคลื่อนตัวของแนวโน้มขาขึ้นที่สร้างขึ้นหลังจากผ่าน Phase C ในการทดสอบนั้นราคาจะเคลื่อนตัวไปที่จุดสูงสุดของ Trading Range และยังเรียกว่า JAC (Jump Across The Creek) ได้อีกด้วย 

LPS : Last Point of Support. ระดับแนวรับสุดท้ายของ Supply และตรงนี้จะเป็นจุดต่ำสุดที่ยกสูงขึ้น ซึ่งเราจะพบในการที่ราคาจะเคลื่อนขึ้นสู่ระดับของแนวต้าน 

BU : Back UP.  นี่คือปฏิกิริยาใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนที่ตลาดกระทิงจะเริ่มต้น เรียกอีกอย่างว่า BUEC (Back Up to the Edge of the Creek)


Phase E Bullish Trend ราคาจะวิ่งออกนอก Trading Range ไปตามแนวโน้มขาขึ้น เมื่อจบจากกระบวนการสะสม Accumulation จะเป็นไปตามลำดับของ SOS และ LPS ที่สร้างพลวัตของจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่เพิ่มขึ้น

Basic Accumulation Structure No.2 


ตัวแปรลำดับต่อมาของวิธีในการสะสมราคา Accumulation ที่เป็นในลักษณะที่ไม่มี Spring เพราะว่า Phase C ราคาล้มเหลวในการลงไปจุดต่ำสุดของโครงสร้าง 

โดยทั่วไปหากเกิดเหตุการณ์นี้เป็นเพราะว่าเงื่อนไขการสะสมในตลาด ณ ปัจจุบัน กำลังแจ้งเตือนเราว่ากำลังอยู่ภายใต้ความแข็งแรงของภาวะตลาดกระทิง 

จุดมุ่งหมายของราคาคือการเข้าสู่โซนสภาพคล่อง แต่ผู้ค้ารายใหญ่จะหนุนตลาดโดยการซื้ออย่างก้าวร้าว พวกเขาไม่อนุญาตให้ราคาลดลงต่อไป เพื่อไม่ให้ใครจะสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่าได้ 

การระบุช่วงราคาประเภทนี้ทำได้ยากกว่า เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์การทะลุแนวรับที่เป็นสัญญานลวงที่เกิดขึ้น  (False Breakout) ทำให้ยากต่อการคาดเดาสถานการณ์ขาขึ้น

โซนการซื้อขายหลักจะอยู่ตรง SPRING ที่มีศักยภาพ ด้วยเหตุนี้ เมื่อซื้อใน LPS ที่เป็นไปได้ เราจะสงสัยเสมอว่าราคาจะไปถึงโซนราคาต่ำสุดนั้นก่อนหรือไม่ และพัฒนาเป็น SPRING ที่จะเริ่มเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุด

ในแง่ของแนวทางการซื้อขายของคุณ ผลลัพธ์ของรูปแบบประเภทนี้โดยไม่มีการทะลุแนวรับที่ผิดพลาด (False Breakout) คือ การแสดงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากจุดต่ำสุดของ LPS ไปจนถึงการทะลุแนวรับของช่วงราคานั้นมักจะผ่านไป

ดังนั้น โอกาสในการซื้อที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวในโครงสร้างประเภทนี้จะพบได้ใน BUEC ในการทดสอบหลังจากการทะลุแนวรับ ตรงนี้เองที่เราต้องตื่นตัวเพื่อมองหาจุดเข้าซื้อ



Related

wyckoff 5251918113801041343

แสดงความคิดเห็น

emo-but-icon

Connect Us

Follow Us

Hot in week

Recent

Random

Book for trader

หนังสือ เริ่มต้นลงทุนหุ้นด้วยตัวเอง (ฉบับมือใหม่)



Side Ads

item
- Navigation -